เวียนหัวหลังแผ่นดินไหว รู้จักโรคสมองเมาแผ่นดินไหว สาเหตุและวิธีรับมือ

เวียนหัวหลังแผ่นดินไหว รู้จักโรคสมองเมาแผ่นดินไหว สาเหตุและวิธีรับมือ

เวียนหัวหลังแผ่นดินไหว

 

โรคสมองเมาแผ่นดินไหว สาเหตุ อาการและวิธีรับมือ

หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว หลายคนอาจยังคงมีอาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหว หรือรู้สึกศีรษะโคลงเคลงคล้ายกับว่าแผ่นดินยังคงไหวอยู่ แม้เหตุการณ์จะยุติลงแล้วก็ตาม อาการนี้เรียกว่า โรคสมองเมาแผ่นดินไหว (Earthquake Drunk) ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับใครก็ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีไมเกรนและเวียนหัวเป็นทุนเดิมหรือผู้ที่ไวต่อการเมารถ การทำความเข้าใจภาวะนี้จะช่วยให้เรารู้วิธีดูแลตัวเองและรับมือกับอาการได้อย่างถูกต้อง

 

โรคสมองเมาแผ่นดินไหว คืออะไร?

โรคสมองเมาแผ่นดินไหว (บางครั้งเรียกว่า โรคเมาแผ่นดินไหว) คือกลุ่มอาการเวียนศีรษะและเสียการทรงตัวที่เกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหว ผู้ที่มีอาการนี้มักบรรยายความรู้สึกว่าเหมือนกับยังคงโคลงเคลงเคลื่อนไหวอยู่ เช่นเดียวกับความรู้สึกโคลงเคลงหลังจากนั่งเรือเป็นเวลานานแล้วขึ้นฝั่งใหม่ ๆ ในภาษาญี่ปุ่นมีคำเฉพาะสำหรับอาการนี้ว่า “จิชิน-โยอิ” แปลตรงตัวว่า “เมาแผ่นดินไหว” นั่นเอง

 

อาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหวถือเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายต่อแรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แม้ไม่มีความเสียหายทางร่างกายโดยตรงก็ตาม กลไกเบื้องหลังคือระบบประสาทการทรงตัวของร่างกายได้รับการกระตุ้นหรือรบกวนอย่างฉับพลัน ส่งผลให้สมองยังคงรับรู้ความเคลื่อนไหวอยู่ระยะหนึ่งหลังจากแผ่นดินสงบลง

 

สาเหตุของอาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหว

 

สาเหตุหลักของอาการนี้มาจากการรบกวนระบบการทรงตัว (vestibular system) ในหูชั้นในของเรา เมื่อเกิดแผ่นดินไหว การสั่นไหวที่ไม่คาดคิดจะทำให้ระบบทรงตัวดังกล่าวเสียสมดุลชั่วคราว สมองได้รับสัญญาณที่ขัดแย้งกัน (ตาอาจมองเห็นว่าพื้นนิ่งแล้ว แต่หูด้านการทรงตัวยังรู้สึกถึงแรงไหว) จึงเกิดความสับสนและพยายามปรับตัวให้กลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งต้องใช้เวลาเล็กน้อยกว่าความรู้สึกโคลงเคลงจะหายไป

 

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้อาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นหรือยาวนานขึ้น ได้แก่:

  • มีประวัติเมารถหรือเมาเรือง่าย: คนที่ไวต่อการเมารถ เมาเรือ หรือเมาเครื่องเล่นต่าง ๆ อยู่แล้ว มักจะไวต่อการเสียสมดุลของระบบทรงตัวมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นเมื่อเจอแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดอาการเวียนหัวรุนแรงกว่า
  • อยู่ในอาคารสูงขณะเกิดแผ่นดินไหว: ผู้ที่อยู่บนตึกสูงหรืออาคารที่แกว่งตัวในระหว่างเกิดแผ่นดินไหว จะรู้สึกถึงแรงโคลงเคลงชัดเจนกว่าผู้ที่อยู่บนพื้นราบ เพราะอาคารจะขยายแรงสั่นสะเทือน ทำให้ระบบทรงตัวถูกรบกวนมากขึ้น
  • มีความเครียดหรือความตื่นตระหนกสูง: ความตกใจและระดับความเครียดที่พุ่งสูงในเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลให้ระบบประสาทอัตโนมัติตื่นตัวสุดขีด ฮอร์โมนความเครียดอย่างอะดรีนาลีนหลั่งออกมามาก ส่งผลให้ร่างกายไวต่อความรู้สึกผิดปกติต่าง ๆ เมื่อเหตุการณ์จบลง ความตื่นตัวที่ยังค้างอยู่สามารถทำให้เรารู้สึกเวียนหัวหรือรับรู้การสั่นไหวที่ไม่มีอยู่จริงได้
  • เป็นโรคไมเกรนอยู่แล้ว: ผู้ที่เป็นไมเกรนบางรายมีแนวโน้มจะมีอาการวิงเวียนหรือระบบทรงตัวไวกว่าปกติ งานวิจัยบางชิ้นพบว่าผู้ที่มีไมเกรนหรือภาวะวิตกกังวลมีโอกาสเกิดอาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหวมากกว่าคนทั่วไป และอาการอาจรุนแรงหรือนานกว่าเนื่องจากระบบประสาทไวต่อสิ่งกระตุ้น

 

อาการของโรคเมาแผ่นดินไหว

อาการหลัก ๆ ของภาวะสมองเมาแผ่นดินไหว มีดังนี้:

  • เวียนศีรษะ: รู้สึกมึน ๆ หัว โคลงเคลง เสียการทรงตัว เหมือนพื้นเอียงหรือหมุน ทั้ง ๆ ที่เรายืนอยู่กับที่
  • คลื่นไส้: บางคนอาจมีอาการพะอืดพะอม อยากอาเจียนคล้ายเมารถร่วมด้วย เนื่องจากระบบทรงตัวและระบบทางเดินอาหารมีความเชื่อมโยงกัน
  • รู้สึกโคลงเคลงเหมือนยังอยู่บนเรือ: มีความรู้สึกว่าร่างกายหรือสิ่งรอบตัวโยกไปมาช้า ๆ คล้ายกับตอนเพิ่งลงจากเรือใหญ่หรือเครื่องเล่นที่หมุน แม้พื้นดินจะหยุดสั่นแล้ว
  • มึนงง สับสน: สมองอาจรู้สึกตื้อ ๆ ไม่ปลอดโปร่ง มีสมาธิยากในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากความสับสนของประสาทการทรงตัวและการมองเห็น
  • ปวดศีรษะหรืออ่อนเพลีย: สำหรับบางคน ความเครียดและการทรงตัวที่ผิดปกติอาจกระตุ้นให้มีอาการปวดหัวร่วมด้วย หรือรู้สึกอ่อนล้าหลังผ่านเหตุการณ์ตื่นเต้น

 

โดยทั่วไป อาการเหล่านี้มักจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่นาทีถึงสองสามชั่วโมงหลังเหตุการณ์ หากร่างกายปรับสมดุลได้เองเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาการอาจยืดเยื้อไปหลายวันหรือแม้แต่หลายสัปดาห์ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอย่างที่กล่าวไปข้างต้น (เช่น มีโรควิตกกังวลหรือโรคไมเกรน)

 

นอกจากอาการทางกายแล้ว ด้านจิตใจก็อาจได้รับผลกระทบหลังแผ่นดินไหวเช่นกัน หลายคนยังคงรู้สึกระแวงและตกใจง่ายหลังเหตุการณ์ ภาวะที่เรียกว่า “สมองหลอนแผ่นดินไหว” หรือ Earthquake Illusion อาจเกิดขึ้นได้ กล่าวคือ ผู้ประสบเหตุบางรายจะรู้สึกเหมือนกับมีแรงสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ภาวะนี้มักมาจากความทรงจำที่ฝังใจและระดับความตื่นตัวของระบบประสาทที่ยังสูงอยู่หลังเหตุการณ์ เป็นอาการลวงทางจิตใจที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลและความเครียด หากมีความรุนแรงมาก ๆ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอย่างโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) ได้ เช่น มีอาการนอนไม่หลับ ฝันร้าย ใจสั่นเมื่อต้องขึ้นอาคารสูง หรือหวาดกลัวกับเสียงสัญญาณเตือนภัยต่าง ๆ

 

31.03.25 - Single Ads - SEO1.png

 

 

งานวิจวิจัยสนับสนุน

จากงานวิจัยเกี่ยวกับแผ่นดินไหวโทโฮกุปี 2011 (Magnitude 9.0) และแผ่นดินไหวคุมาโมโตะปี 2016 พบว่า มากกว่า 42% ของผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวคุมาโมโตะรายงานอาการวิงเวียนและรู้สึกโคลงเคลงอย่างต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนหลังเกิดเหตุ (ที่มา: Journal of Vestibular Research, 2016 : https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0255816)

 

31.03.25- Single Ads - SEO2.png

 

 

ภาวะสมองหลอนแผ่นดินไหว (Earthquake Illusion)

นอกจากอาการเมาแผ่นดินไหว ยังมีภาวะที่เรียกว่า "สมองหลอนแผ่นดินไหว" หรือ Earthquake Illusion ผู้ที่มีอาการนี้มักรู้สึกเหมือนมีแรงสั่นสะเทือนทั้งที่ไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวจริง สาเหตุหลักๆ เกิดจาก:

  • ความตื่นตัวที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์
  • ภาวะวิตกกังวลและความเครียดสะสม
  • สมองพยายามประมวลข้อมูลทางประสาทสัมผัสที่ขัดแย้งกัน

 

วิธีดูแลและจัดการอาการเบื้องต้น

แม้ว่าจะไม่มีการรักษาที่จำเพาะ แต่สามารถจัดการและบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ดังนี้:

 

31.03.25 - Single Ads - SEO3.png

 

1. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เหมาะสม ระบบประสาทและสมองจะได้รับการฟื้นฟู การนอนช่วยลดความเครียดและฟื้นฟูสมดุลของระบบประสาทการทรงตัว หากรู้สึกเวียนหัวหลังแผ่นดินไหว ควรนอนพักในที่ปลอดภัยและเงียบสงบ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้น

2. รับชมข่าวสารอย่างมีสติ

ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น แผ่นดินไหว การติดตามข่าวสารเป็นสิ่งจำเป็น แต่ควรรับชมอย่างมีสติและไม่จมอยู่กับข้อมูลที่ทำให้ตื่นตระหนกมากเกินไป การเลือกแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือและพักเบรกจากการเสพข่าวบ้าง จะช่วยลดความวิตกกังวลและความเครียดที่อาจเกิดขึ้นได้

3. มองไปยังจุดที่อยู่ไกล เพื่อช่วยระบบทรงตัว

การมองไปยังจุดที่อยู่นิ่งและห่างออกไป เช่น ขอบฟ้า ต้นไม้ หรือสิ่งก่อสร้างที่มั่นคง จะช่วยให้ระบบการทรงตัวค่อย ๆ ปรับเข้าสู่สมดุล ลดความรู้สึกโคลงเคลงหรือเวียนหัวได้ คำแนะนำนี้ใช้หลักการเดียวกับการลดอาการเมารถหรือเมาเรือ ที่ต้องมองไปยังจุดที่ไกลและนิ่ง

4. ดื่มน้ำอย่างช้า ๆ เพื่อคลายคลื่นไส้

การจิบน้ำทีละน้อยจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และเวียนศีรษะ เนื่องจากน้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการขาดน้ำที่อาจเกิดขึ้นจากความเครียดหรือการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปรปรวน หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอย่างรวดเร็วเพราะอาจทำให้คลื่นไส้มากขึ้น

5. พูดคุย แบ่งปันเรื่องราวกับคนที่ไว้วางใจ

การแบ่งปันประสบการณ์และพูดคุยกับคนรอบข้างช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว การได้เล่าความรู้สึกและรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่น ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสามารถจัดการกับอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น การพูดคุยยังช่วยให้เราสร้างกำลังใจให้กันและกันในช่วงเวลาที่ท้าทาย

 

ควรไปพบแพทย์เมื่อใด?

โดยทั่วไปแล้ว โรคสมองเมาแผ่นดินไหว หรืออาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหวเป็นกลุ่มอาการที่ไม่ร้ายแรงและมักจะหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากคุณดูแลตัวเองตามวิธีข้างต้นแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้นภายในสองสามวัน หรือมีอาการรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวัน (เช่น เวียนหัวจนเดินไม่ได้ตรง หรือมีอาการแพนิกหนักมากควบคุมไม่ได้) ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทหรือหู คอ จมูก สามารถประเมินว่าอาการเวียนหัวของคุณไม่ได้มาจากสาเหตุอื่น (เช่น โรคน้ำในหูไม่เท่ากันหรือปัญหาเกี่ยวกับสมอง) และอาจให้ยาหรือคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาอาการ

 

อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหากคุณพบว่าตนเองมีความเครียดหรือความวิตกกังวลสูงผิดปกติหลังเหตุการณ์ เช่น นอนไม่หลับหลายคืน ฝันร้ายซ้ำ ๆ หรือหวาดผวากับสิ่งรอบตัวมากจนใช้ชีวิตยากลำบาก อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของ PTSD หรือความผิดปกติทางจิตใจที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

 

โรคสมองเมาแผ่นดินไหว (Earthquake Drunk) และภาวะสมองหลอนแผ่นดินไหว เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากเราประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหว การรู้เท่าทันและเข้าใจอาการเหล่านี้จะช่วยให้เรารับมือได้อย่างมีสติและดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่แผ่นดินไหวสร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือน แต่อาการทางกายและใจที่ตามมาก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หมั่นสังเกตตัวเองและคนใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติก็ควรดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ และขอความช่วยเหลือทางการแพทย์เมื่อจำเป็น ด้วยการเตรียมพร้อมที่ดี เราจะสามารถผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปได้อย่างปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจ

 

อ้างอิง

 

Meta Description: อาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหว ทำให้รู้สึกเหมือนโลกยังสั่น บทความนี้อธิบายสาเหตุ อาการ วิธีการดูแลและจัดการเบื้องต้น เพื่อช่วยให้คุณดูแลตัวเองหลังแผ่นดินไหวได้ถูกต้อง

 

Footer Tele Blog - Surat.png

กลับไปยังบล็อก

บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ