จามแล้วปวดหัว เกิดจากอะไรได้บ้าง? อาการนี้บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ

จามแล้วปวดหัว เกิดจากอะไรได้บ้าง? อาการนี้บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ

อาการจามแล้วปวดหัว เป็นสิ่งที่หลายคนอาจเคยประสบ อาการนี้แม้จะดูเล็กน้อย แต่บางครั้งอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม มาดูสาเหตุและวิธีจัดการเบื้องต้นกันค่ะ

 

 

 

สาเหตุที่ทำให้จามแล้วปวดหัว

 

 

1. ความดันในโพรงไซนัสเพิ่มขึ้น


เมื่อคุณจามแรง ความดันในโพรงไซนัสจะเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดบริเวณหน้าผาก ดั้งจมูก หรือขมับ

 

2.กล้ามเนื้อตึงตัว


การจามแรงอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและศีรษะเกิดการตึงตัว ซึ่งนำไปสู่อาการปวดหัวได้

 

3.ไมเกรน


สำหรับบางคน การจามอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดไมเกรน ซึ่งมักมีอาการปวดหัวรุนแรงข้างเดียว และอาจมีคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย

 

 

4.โรคไซนัสอักเสบหรือการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน


การติดเชื้อหรืออักเสบในโพรงไซนัสสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวได้หลังจากจาม

 

 

5. ความผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง (พบได้น้อย)


ในกรณีที่พบได้น้อยมาก อาการปวดหัวอาจเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดสมอง เช่น โรคหลอดเลือดโป่งพอง

 

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?

 

ควรรีบพบแพทย์หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้:

  • อาการปวดหัวรุนแรงจนกระทบต่อชีวิตประจำวัน
  • ปวดหัวรุนแรงและบ่อยครั้ง
  • มีไข้สูงหรืออาการชาหรืออ่อนแรงร่วมด้วย
  • เห็นภาพซ้อน หรือมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนอย่างรุนแรง

 

วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น

 

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ
    การพักผ่อนช่วยลดความเครียดและฟื้นฟูร่างกาย
  2. ดื่มน้ำมากๆ
    การดื่มน้ำช่วยลดการคัดจมูกและอาการปวดหัว
  3. รับประทานยาแก้ปวด
    ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้
  4. ประคบเย็น
    การประคบเย็นบริเวณที่ปวดอาจช่วยลดอาการปวดได้
  5. หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น
    หากทราบว่ากลิ่นหรือสิ่งใดเป็นตัวกระตุ้น ควรหลีกเลี่ยง

 

คำแนะนำเพิ่มเติม

 

  • หากอาการปวดหัวยังคงไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
  • อย่าละเลยอาการเล็กๆ น้อยๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่

 

สรุป
อาการจามแล้วปวดหัวอาจเกิดจากหลายปัจจัย หากอาการยังคงอยู่หรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง การดูแลตัวเองเบื้องต้น เช่น การพักผ่อน ดื่มน้ำ และหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ

หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

กลับไปยังบล็อก

บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ